เดินเพื่อสุขภาพ | Pattaya City Hospital | โรงพยาบาลเมืองพัทยา เราพร้อมดูแลคุณ

บทความเรื่องสุขภาพ

Health Article

เดินเพื่อสุขภาพ

Date : 13 September 2017

ข้อมูลจาก : ศ.นพ.พิสิฏฐ์  เลิศวานิช ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัดคณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาล
ภาพจาก : pixabay.com

ปัจจุบันการศึกษาหลายแห่งพบว่า  การ  “เดิน”   เป็นการออกกำลังกาย ที่สามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้  รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามกันครับ  
“การเดิน” เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ที่ทำได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุก วัย แม้ในผู้สูงอายุ และยังทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณบ้าน หรือในสวนสาธารณะ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันมาก การเดินเพื่อสุขภาพที่ดี ต้องมีการเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เริ่มด้วย

1.  อบอุ่นร่างกาย  ขั้นตอนนี้สำคัญมาก โดยยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้ร่างกายรับรู้ถึงการเตรียมพร้อมกับการทำงานของระบบต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น  เอ็นอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เป็นต้น    

2. เดินให้ถูกต้อง “ควรเดินเร็วๆ ก้าวเท้าถี่ๆ” มากกว่าภาวะปกติในชีวิตประจำวัน   เทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย โดยเฉพาะระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานเพิ่มขึ้น และมีการใช้พลังงานมากขึ้น บวกกับ “เดินติดต่อกัน 20 - 30  นาทีขึ้นไป”  ที่สำคัญต้องทำอย่างสม่ำเสมอ 3 - 5  ครั้งต่อสัปดาห์   ดีกว่าทำสัปดาห์ละครั้งสองครั้งแต่หักโหม  และขณะเดินไม่ควรกลั้นหายใจหรือสูดลมหายใจอย่างแรง  ควรหายใจเข้าและออกยาว ๆ เพื่อช่วยระบบการหายใจของร่างกาย  มีข้อควรระวังคือ ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองมีอาการข้อใดข้อหนึ่งดังนี้    หัวใจเต้นเร็วมากจนรู้สึกเหนื่อย  หายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค  หรือเหนื่อยจนเหมือนจะเป็นลม  แสดงว่าระดับการออกกำลังกายนั้นมากเกินไป และในครั้งต่อไป  ขอให้ลดระดับการเดินลงให้เหมาะสมกับสภาพของร่างกาย โดยอาจลดความเร็ว หรือลดเวลาในการเดินลง  

3. ก่อนหยุดเดิน ควรผ่อนคลาย คือเดินช้าลง และยืดเส้นยืดสายอีกครั้ง เพื่อให้ระบบต่างๆ ของร่างกายลดการทำงานลง  และกลับคืนสู่ภาวะปกติ  รวมทั้งควรดื่มน้ำให้เพียงพอภายหลังการออกกำลังกาย

การเดินเพื่อสุขภาพที่ดี   นอกจากช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี สามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้น  ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน   เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกบาง  รวมทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ  ผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี  ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินซึ่งไม่ปรารถนา  คิดเป็นตัวเลขเผาผลาญแล้ว  อยู่ประมาณ 60 แคลอรี ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร