สัญญาณไวไฟมีอันตรายต่อสมองเด็กหรือไม่? | Pattaya City Hospital | โรงพยาบาลเมืองพัทยา เราพร้อมดูแลคุณ

Health Article

บทความเรื่องสุขภาพ

สัญญาณไวไฟมีอันตรายต่อสมองเด็กหรือไม่?

Date : 8 August 2017

ข้อมูลจาก : ศ.นพ.อนันต์นิตย์ วิสุทธิพันธ์ หัวหน้าหน่วยประสาทวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพจาก : pixabay.com

ปัจจุบันหลักฐานทางการแพทย์ยังไม่มีสรุปออกมาว่าสัญญาณไวไฟมีอันตรายต่อเด็กหรือมนุษย์ แต่มีรายงานการศึกษาออกมาบ้างว่า มันอาจจะมีผลไปรบกวนคลื่นสมองบางอย่างบ้าง หรืออาจจะทำให้เด็กนอนหลับไม่สบายตัวบ้าง แต่คงไม่ใช่สัญญาณไวไฟมุ่งตรงไปทำลายสมองเด็กทันทีเลยแบบนั้นไม่มี การพัฒนาสมองของเด็กหลักๆ เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การเลี้ยงดู อาหาร การพักผ่อน เป็นต้น

มีรายงานว่า เด็กบางคนเล่นแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือที่ต่อสัญญาณไวไฟแล้วเกิดอาการปวดศีรษะ สายตาพร่า แต่หากเราอ่านรายละเอียดจริงๆ จะพบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาจาก เด็กใช้เล่นเกมส์ ใช้ดูการ์ตูน เป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เกิดอาการปวดคอ และลามมาปวดศีรษะได้ ไม่ได้เกิดจากสัญญาณไวไฟแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นต้องพึงใช้อย่างระมัดระวัง หรือบางคำถามบางรายงานบอกว่า ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์สัญญาณไวไฟจะมีผลกระทบทำให้เด็กในท้องผิดปกติไหม เราก็ต้องย้อนกลับไปว่า เป็นเพราะการใช้ไวไฟนานๆ ของคุณแม่หรือปล่าว ใช้จนไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอซึ่งมีความสำคัญ เลยส่งผลต่อเด็กในท้อง

การพัฒนาระบบประสาทของเด็กให้ดี คือ
1.มีการพักผ่อนที่เพียงพอตามช่วงอายุ
2.มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
3.การเลือกรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ อย่างเพียงพอ
4.เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยให้รีบพามาพบแพทย์
5.ใส่ใจเลี้ยงดู ให้ความรัก ความอบอุ่นอย่างถูกวิธี

ขอสรุปอีกครั้งว่า สัญญาณไวไฟปัจจุบันยังไม่มีรายงานออกมาว่ามีอันตรายต่อมนุษย์ เพียงแต่เราต้องใช้มันอย่างชาญฉลาด ลูกของเราก็สามารถเลี้ยงให้ดีได้ด้วยวิธีอื่นๆ นอกเหนือจากการให้เล่นแท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ทั้งวัน