พัฒนาการช้าในเด็ก เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องสังเกต

“ลูกเริ่มหัดเดินช้าไปไหมนะ” “เริ่มหัดพูดช้าไปหรือเปล่า”
หลากหลายคำถามที่พ่อแม่กังวลเมื่อลูกทำอะไรไม่ได้เหมือนคนอื่น สำหรับคุณหมอแล้ว พัฒนาการช้าอาจไม่ได้หมายถึงการเริ่มเดินหรือคลานช้า แต่จะให้ความสำคัญถึงสามารถในการรับรู้ของประสาททั้ง 5 ในเด็กอีกด้วย ตั้งแต่การมองเห็น การได้ยิน การรับสัมผัส การรับรส และการรับกลิ่น ที่แสดงว่าลูกของคุณสามารถรับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมที่มากระทบได้ และมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับสิ่งรอบตัว ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้การพัฒนาของเด็ก หากลูกมีพัฒนาการที่ล่าช้า ก็อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตของลูกได้ในอนาคต จึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องคอยสังเกต

เมื่อไรจึงเรียกว่า…พัฒนาการช้า

• ไม่กระพริบตาเมื่อมีแสงจ้า ไม่จ้องหรือมองวัตถุที่อยู่ใกล้ หรือพบว่าลูกตาเขหรือตาเหล่
• ไม่ตอบสนองต่อเสียงดัง
• ขยับแขนขาน้อย รู้สึกว่าลูกตัวนิ่ม อ่อนแรง และมีอาการเกร็ง
• มีปัญหาการดูดนม เช่น ดูดไม่แรง สำลักนมเวลาดูด เป็นต้น
• อายุ 3 เดือน ยังไม่ชันคอ ไม่หยิบจับสิ่งของ
• อายุ 4 เดือน ยังไม่ส่งเสียง ไม่เลียนเสียง
• อายุ 18 เดือน ยังไม่พูดคำที่มีความหมาย และไม่ทำตามคำสั่ง ไม่เล่น สมมติง่ายๆ เช่น ป้อนอาหารตุ๊กตา หรือเล่นทำอาหาร เป็นต้น
• ไม่จ้องหน้า ไม่สบตา เรียกไม่หัน
• ชอบเล่นคนเดียว
• มีพฤติกรรมซ้ำที่ไม่มีความหมายและเปลี่ยนแปลงยาก เช่น ชอบเรียงของ เป็นต้น

ดังนั้น การเฝ้าดูพัฒนาการการรับรู้จึงเป็นเรื่องสำคัญของพ่อแม่ หากพบว่าลูกมีพัฒนาการช้าควรรีบปรึกษากุมารแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อพัฒนาการที่ดีขึ้นและให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเด็กปกติ

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราช